Affiliate Partner คือหนึ่งในองค์ประกอบของ Affiliate Marketing เป็นโปรแกรมทางการตลาดที่จะช่วยกระจายการรับรู้สินค้าและเพิ่มยอดขายของธุรกิจเราอย่างล้นหลาม! แม้ว่าเราจะเริ่มธุรกิจได้ด้วยการซื้อขายเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไปที่ธุรกิจเริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ต้องขยายกิจการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งอาจจะต้องมีการร่วมมือกับบุคคลอื่น ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เกิดเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรือ Affiliate Partner คือ หุ้นส่วนรายย่อยที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของเราอย่างมาก! แต่ Affiliate Partner คืออะไร? ทำเงินได้ยังไง? Affiliate Partner คือการตลาดที่จะมีความสำคัญแบบไหนต่อธุรกิจ แล้วต้องเริ่มทำ Affiliate Partner ให้ได้ผลบ้าง GAPP biz รวมมาไว้ให้แล้ว!
เลือกอ่านตามสารบัญ
Affiliate Partner คืออะไร?
Affiliate Partner คือ “ตัวแทนขายสินค้า” ซึ่งมักจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ตัวแทนขายสินค้าหรือ Affiliate Partner คือ จะต้องทำข้อตกลงระหว่างกันเพื่อให้ขายสินค้าของเจ้าของธุรกิจได้ภายใต้ข้อบังคับต่าง ๆ เช่น ส่วนแบ่ง จำนวนยอดขายขั้นต่ำ เป็นต้น ธุรกิจที่กำลังมีแผนขยายกิจการ อยากเพิ่มยอดขายและสร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น ก็เหมาะมากถ้าจะใช้ Affiliate Partner เป็นส่วนหนึ่งในแผนนั้น เพราะ Affiliate Partner ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์สูง กระจายสินค้าได้ไว เป็นประโยชน์กับการเริ่มขายของออนไลน์สุด ๆ!
Affiliate Partner ทำเงินได้ยังไง?
โดยพื้นฐาน Affiliate Marketing จะประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ เจ้าของธุรกิจ เจ้าของสื่อ และผู้ซื้อสินค้า โดยจะมีกระบวนการทำงานคือ เจ้าของธุรกิจ (Product Owner) ต้องการโฆษณาหรือกระจายสินค้า ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของร้านค้ารายย่อยหรือระดับองค์กรก็ได้ เจ้าของธุรกิจต้องทำข้อตกลงกับเจ้าของสื่อ (Affiliate Partner) เพื่อให้พาร์ทเนอร์ช่วยแนะนำหรือขายสินค้าให้กับผู้ซื้อสินค้าอีกที โดยเจ้าของธุรกิจจะได้กำไรจากเรทราคาส่งสำหรับตัวแทนขายสินค้าหรือเจ้าของสื่อ ส่วนเจ้าของสื่อก็จะได้ส่วนแบ่ง (Commission) ที่มาจากยอดขายที่ตนเองทำได้ มีตั้งแต่ 1% ของราคา ไปจนถึงได้สิทธิพิเศษอื่น ๆ จากธุรกิจ เช่น ได้ทดลองสินค้าใหม่ฟรี ได้สินค้าไปรีวิวฟรี เป็นต้น
กล่าวโดยสรุปคือ ธุรกิจสามารถใช้ Affiliate Partner ทำเงินหรือกำไรให้ได้ทีละมาก ๆ ขายสินค้าได้เยอะขึ้น และสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือ Brand Awareness ไปในตัวได้ด้วยนั่นเอง
ประเภทของ Affiliate Partner ที่เป็นที่นิยม
Affiliate Partner คือการตลาดที่แยกย่อยออกไปอีกหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีช่องทางและวิธีการทำส่วนแบ่งที่แตกต่างกัน ซึ่งเราที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะต้องพิจารณาว่าจะเลือกข้อตกลงแบบไหน เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีกับ Affiliate Partner ในระยะยาว เพราะตัว Affiliate Partner เองก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งในลูกค้าประจำของเราก็ได้เช่นกัน
-
อินฟลูเอนเซอร์ (Influencers)
หรือเรียกแบบตรงตัวว่า ‘ผู้มีอิทธิพลทางอินเทอร์เน็ต’ เป็นประเภทของ Affiliate Partner ที่ธุรกิจนิยมนำมาใช้และสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์ได้มากที่สุด เนื่องจากผู้มีอิทธิพลทางอินเทอร์เน็ตมักจะเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือเป็นผู้นำทางความคิดของคนเฉพาะกลุ่มนั้น ๆ ถ้าเราสามารถให้อินฟลูฯ ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากพอ หรือมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ก็จะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นยอดขาย เพิ่มความน่าเชื่อถือ และอาจจะทำให้สินค้าติดลมบนสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดฮิตตลอดกาลได้เลย!
-
ตัวแทนของแบรนด์ (Brand Ambassadors)
เป็น Affiliate Partner ที่มีความคล้ายคลึงกับอินฟลูฯ แตกต่างกันตรงที่ ตัวแทนแบรนด์เป็นบุคคลที่เราหรือเจ้าของธุรกิจจ้างมาเพื่อเป็นภาพลักษณ์ของธุรกิจ มีหน้าที่ในการนำเสนอสินค้าหรือบริการของธุรกิจ ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ส่งเสริมการขาย และสร้างกระแสเชิงบวกของแบรนด์ โดยอาจจะเป็นบุคคลธรรมดา เป็นอินฟลูฯ หรือเป็นผู้มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง ๆ
-
คอนเทนต์ (Content)
ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เขียนรีวิวสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ บทความเปรียบเทียบครีมกันแดดในเว็บไซต์เกี่ยวกับผู้หญิง เป็นต้น โดยผู้เขียนหรือเจ้าของเว็บไซต์เหล่านี้จะทำการเขียนหรือสร้างเนื้อหาที่จูงใจให้ลูกค้าสนอกสนใจผลิตภัณฑ์ของเรามากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นการพูดถึงเทรนด์สินค้ามาแรงในช่วงนั้น ๆ แถมคอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีรายละเอียดสำคัญแบบละเอียดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของเราได้เหมือนกัน!
-
คอมมูนิตี้และแวดวงเฉพาะกลุ่ม (Communities and Associations)
เป็นชุมชนหรือสมาคมต่าง ๆ ที่ความสนใจเฉพาะทาง ซึ่งจะมีลูกค้าหลากหลายแต่มีความสนใจในด้านเดียวกัน ซึ่งเราสามารถร่วมมือกับคอมมูฯ แต่ละแบบที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเราทางใดทางหนึ่ง เพื่อกระจายสินค้าและการรับรู้แบรนด์แก่ลูกค้าที่เข้าถึงยากแต่ตรงโจทย์ เป็นการตีตลาดที่น่าสนใจอีกแบบ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่ม Facebook หรือ Line Open Chat เป็นต้น
รูปแบบรายได้ของ Affiliate Partner ที่เห็นกันบ่อย
-
Pay Per Click (PPC)
เจ้าของสื่อหรือ Affiliate Partner รับส่วนแบ่งจากการที่ผู้ซื้อสินค้าคลิกดูสินค้า 1 ครั้ง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการคลิกเพื่อกดสั่งซื้อสินค้า แค่คลิกเพื่อดูสินค้าเฉย ๆ ก็ได้ส่วนแบ่ง ตัวอย่างเช่น การซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Google Ads ที่จะดันเว็บไซต์ของเราให้ขึ้นไปอยู่อันดับแรก ๆ ของหน้าค้นหา เมื่อมีคนคลิกเข้ามาดู Affiliate Partner คือผู้ที่จะได้รับส่วนแบ่งนั้น
ตัวอย่างผลลัพธ์การค้นหาเมื่อใช้ Google Ads
-
Pay Per Sale (PPS)
เจ้าของสื่อหรือ Affiliate Partner รับส่วนแบ่งจากการที่ผู้ซื้อสินค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านการโปรโมทของ Affiliate Partner คลิกดูเฉย ๆ จะไม่ได้ส่วนแบ่ง ตัวอย่างเช่น Shopee affiliate ที่เรามักพบเห็นกันบ่อยครั้งบน Twitter ซึ่งในการรีวิวหรือแนะนำสินค้า จะมีการแปะลิงก์ไปยังหน้าสินค้าของ Shopee ซึ่งสามารถกดสั่งซื้อได้ทันที หากมีการสั่งซื้อผ่านลิงก์นั้น Affiliate Partner คือผู้ที่จะได้ส่วนแบ่งตามยอดสั่งซื้อไปเลย
ตัวอย่างการทำ Shopee affiliate บน Tiktok
ขอบคุณภาพจาก Shopee
-
Pay Per Lead (PPL)
เจ้าของสื่อหรือ Affiliate Partner รับส่วนแบ่งเมื่อผู้ซื้อสินค้าทำการสมัครหรือลงทะเบียนกับแบรนด์ผ่านการโปรโมทของ Affiliate Partner ไม่เกี่ยวกับการขายสินค้า ตัวอย่างเช่น การเชิญชวนให้สมัครแอปพลิเคชั่นแล้วใส่รหัสรับเงินอย่าง TikTok ที่ผู้ใช้งานจะมีรหัสเป็นของตนเอง เราสามารถเชิญชวนให้คนอื่น ๆ มาโหลดแอปและสมัครใช้งานโดยกรอกรหัสของเรา TikTok ก็จะจ่ายส่วนแบ่งอันเป็นค่าโฆษณาให้แอปพลิเคชั่นมีผู้ลงทะเบียนใช้งานเพิ่มขึ้น กล่าวคือ สำหรับ PPL ตัว Affiliate Partner คือผู้เชิญชวนให้มาลงทะเบียนสมัครโปรแกรมต่าง ๆ ของแบรนด์นั่นเอง
ตัวอย่างการเชิญเพื่อนให้สมัคร TikTok เพื่อรับเงินโบนัส
ขอบคุณภาพจาก Brand Buffet
ทำไม Affiliate Partner ถึงสำคัญ?
จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันการตลาดอย่าง Affiliate Marketing เป็นที่นิยมเอามาก ๆ เนื่องจากผู้มีอิทธิพลทางอินเทอร์เน็ตนั้นมีความหลากหลายมากขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคสูงขึ้น สินค้าและบริการต่าง ๆ ก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน ความเป็นจริงการตลาดแบบ Affiliate นั้นมีมาแล้ว! เรียกง่าย ๆ ว่าทำเอาค่าคอมฯ ตามที่เราคุ้นหูกันบ่อย ๆ แต่เนื่องจากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้การทำการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มพุ่งสูงและกดดันมาก การโฆษณาขายตัวเองก็เริ่มไม่เพียงพอแล้ว เพราะลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้เยอะขึ้น เราจึงต้องนำการตลาดแบบ Affiliate มาใช้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ หรือเพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้าของเรามันดีจริง ๆ นะ มีผู้ใช้จริงยืนยันได้ มีกลุ่มที่นิยมใช้สินค้าของเราอยู่ เป็นต้น
ของ Affiliate Partner ต่อการทำธุรกิจ มีดังนี้
- ช่วยขยายการเข้าถึงแบรนด์ เหมาะสำหรับธุรกิจที่เข้าถึงลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ยาก Affiliate Partner คือผู้ที่มีอิทธิพลในกลุ่มลูกค้านั้น ๆ หากเลือกใช้ก็จะสามารถเพิ่มการเข้าถึงหรือการรับรู้แบรนด์สินค้าได้ง่ายขึ้น
- ทำให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น เพราะการจะสร้าง Affiliate Partner คือต้องมีโปรแกรมสำหรับ Affiliate Partner ในแบบต่าง ๆ อย่างโปรโมชั่น ดีล หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ซึ่งสามารถนำมาปรับปรุงเพื่อนำมาเสนอให้กับลูกค้าหรือผู้ซื้อสินค้าได้ ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ได้โดยไม่ต้องคิดโปรแกรมใหม่ให้ยุ่งยาก
- สร้างความน่าเชื่อให้แบรนด์ กลุ่ม Affiliate Partner คือกลุ่มที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของเราอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะแนะนำ ขายสินค้า ให้ความรู้ หรือบางรายก็จะช่วยปกป้องแบรนด์ของเราอย่างเต็มที่หากโดนกล่าวหาอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้แบรนด์ของเราน่าไว้วางใจกว่าเดิม
- ถูกพูดถึงมากขึ้น เมื่อ Affiliate Partner คือผู้กระจายข้อมูลของแบรนด์เราและสามารถกระตุ้นให้ผู้ซื้อสินค้าพูดคุยและกล่าวถึงสินค้าของเราในวงกว้างมากขึ้น ก็จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นและอาจจะติดหูลูกค้าหลาย ๆ คน และถ้าแบรนด์ประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงว่าเป็นแบรนด์ติดท็อปในด้านนั้น ๆ นั่นเอง!
ทริคเริ่มทำ Affiliate Partner ให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อรู้ถึงความหมายและความสำคัญของการมี Affiliate Partner แล้ว ก็พอจะเห็นภาพคร่าว ๆ กันแล้วแน่นอน! แต่แล้ววิธีที่จะช่วยในการเริ่มทำ Affiliate Partner ให้ประสบความสำเร็จนั้นมีอะไรบ้าง? ต้องเริ่มจากตรงไหน มาดูกัน!
-
เข้าร่วมงานอีเวนท์ต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ
เพราะอาจจะได้เจอกับอินฟลูฯ คนดัง หรือผู้ที่สนใจแบรนด์ของเรามากกว่าการอยู่เฉย ๆ และคอยเฟ้นหาไปทีละเล็กละน้อย นอกจากนี้ เราอาจจะได้เจอกับเจ้าของธุรกิจคนอื่น ๆ ที่อาจจะสนใจร่วมงานกับธุรกิจของเรา และเป็น Partner กันได้ด้วย แต่ก่อนที่จะไปเข้าร่วมงานต่าง ๆ ก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม เตรียมข้อมูลการนำเสนอแบรนด์ของเราให้กับเป้าหมาย และติดตามความเคลื่อนไหวของเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าจะเข้ากับธุรกิจของเราหรือเปล่า จะอีเวนท์ออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ได้หมดเลย!
-
เลือกประเภท Affiliate Partner อย่างเหมาะสม
เป็นทริคที่คล้ายกับข้อแรก! เพราะนอกจากการเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีกับคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ที่อาจจะสนใจสินค้าของเราแล้ว เราก็ต้องเลือก Affiliate Partner ที่เหมาะกับแบรนด์ของเรา อาจจะสังเกตจากพฤติกรรมการซื้อ สนใจสินค้าของเรามากน้อยแค่ไหน ใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ขนาดไหน ชอบสินค้าอะไรบ้าง นอกจากนี้ ก็ต้องสังเกตความเคลื่อนไหวของกระแสสังคมด้วย ว่าเห็นด้วยหรือเปล่า คนดังที่เป็นเป้าหมายของเรามีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหนกับคนที่อาจจะกลายเป็นผู้ซื้อสินค้า
-
สร้างช่องทางโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์เพื่อทำ Affiliate Program
ปัจจุบันก็มีเจ้าของธุรกิจมากมายที่มองหาช่องทางที่สามารถดึงดูดให้เกิด Affiliate Partner คือส่วนใหญ่มักจะเป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปที่มีฟีเจอร์ Affiliate ร่วมด้วย อย่าง Shopee เจ้าแอปส้มขายสินค้าสุดฮิตที่มี Shopee Affiliate สำหรับลูกค้าที่ต้องการโปรโมทสินค้าและรับค่าคอมฯ หรือร้านค้าที่ต้องการเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นก็ทำได้ เช่นเดียวกับ Lazada Affiliate ที่เป็นคู่แข่งตัวเป้ง ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ แต่ก็มีผู้ให้บริการหลายเจ้าในไทยที่เปิดให้มี Affiliate Partner เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายสินค้าโดยตรง ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้โดยตรงอีกด้วย!
สรุป
การทำการตลาดให้มีความหลากหลายนั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างการจดจำให้แบรนด์ของเราได้อย่างกว้างขวาง และการมี Affiliate Partner คือการทำการตลาดอย่างหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาแบรนด์ขึ้นไปอีกขึ้น เจ้าของธุรกิจท่านไหนที่สนใจอยากสร้าง Affiliate Partner มีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเข้ามาได้ตามช่องทางด้านล่างเลยนะ!